โทโฮคุเป็นภูมิภาคที่อยู่เหนือคันโตขึ้นไป (คือเหนือโตเกียวนั่นหละ แต่อยู่ใต้ฮอกไกโด) แถบนี้เป็นแถบที่มีธรรมชาติให้น่าเที่ยวหลายที่
แต่ถ้าจะมาชมซากุระ เราก็รวบรวมสถานที่ที่น่าสนใจมานำเสนอเป็นทางเลือก
แต่ทว่านี่คือ roparat.com (ที่ยังไม่ได้เอาบล็อกนี้ลง) เราไม่ก้อปรูปคนอื่นมาใช้แบบเว็บอื่นๆ นั่นหมายความว่าเราต้องไปเอง ดูเอง เที่ยวเอง (และกระเป๋าแฟบเอง)
การเดินทางในภูมิภาคนี้ใช้ตั๋ว JR East Pass (Tohoku Area) เป็นแบบใช้ได้ 5 วันแบบไม่ต้องติดกัน แต่ต้องใช้ภายใน 14 วันหลังจากวันแรก ราคา 19,000 เยน
บัญญัติศัพท์หน่อย
ช่วงที่สมควรไป — เนื่องจากว่าซากุระ เป็นอะไรที่เราจะกำหนดวันตรงๆไปไม่ได้ ถ้าอยู่ดีๆหนาวมาก หรือร้อนทันทีก็ทำให้เวลาบานของมันเปลี่ยนไปได้ เวลาที่บอกไว้ก็จะเป็นเวลาคร่าวๆ และดูพยากรณ์ซากุระอีกรอบกันเหนียว
ส่วนถ้าอยากดูวันต่อวัน ให้ลองเข้า Instagram แล้วค้นหาตามสถานที่ดู ก็จะเจอ”คนไทย”โพสรูปกันเยอะกว่าคนญี่ปุ่นอีก สามารถเช็คกันเองได้ (ส่วนถ้าจะโพส ก็ฝากลงวันที่ในรูปด้วยนะครับ จะได้เช็คง่ายๆ)
การเดินทาง — ไม่ลงรายละเอียดเยอะนะ เพราะใช้เว็บ hyperdia.com ดูได้ แค่กรอกสถานีต้นทาง ปลายทาง วันเวลาที่จะเดินทางไป แล้วมันก็จะคิดให้
ควรใช้เวลา — คือสำหรับเราเป็นการเดินทอดน่องถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ถ้าถ่ายคนด้วยอาจจะต้องเพิ่มเวลาแล้วแต่บุคคล และถ้าจะเที่ยวที่อื่นก็ต้องเพิ่มเวลากันเอง
Fukushima
Hanamiyama (Fukushima) ⭐️
จุดชมซากุระขึ้นชื่อของเมืองฟุกุชิม่า คุณจะได้พบกับบรรยากาศเมืองเล็กๆใกล้ชิดธรรมชาติ กับการเดินขึ้นเขาลูกเล็กๆเพื่อไปชมซากุระ และชมวิวเมือง แต่ตอนไปซากุระร่วงเกือบหมดแล้ว
ปล. ไม่ต้องห่วงเรื่องรังสี เพราะโรงไฟฟ้าไม่ได้อยู่ที่ฟุกุชิม่า แต่อยู่ที่เมืองแถวๆชายฝั่งทะเล
ช่วงที่สมควรไป: ก่อนสงกรานต์
การเดินทาง: จากสถานีฟุกุชิม่า ออกประตูฝั่งตะวันตกมาที่ป้ายรถบัส (ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง มีคนต่อคิวกันเต็ม)
ควรใช้เวลา: 3 ชั่วโมง (มีเดินขึ้นเขา)
Miharu Takizakura (Miharu) ⭐️
อันนี้เป็นจุดประสงค์ในการมาทริปนี้เลย ซากุระต้นยักษ์ติดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น อายุเป็นพันปี ดอกที่ออกก็มาเป็นริ้วเหมือนน้ำตก สวยงามมาก
นอกจากนี้ยังมีเปิดไฟตอนกลางคืนด้วย น่าจะสวยไปอีกแบบ
แต่คือว่ามันก็มีแค่ต้นซากุระให้ชมนะ อย่างอื่นไม่มีอะไรให้เที่ยว (อ่อ ข้างทางยังมีของขายเรื่อยๆ)
ช่วงที่สมควรไป: สงกรานต์
การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Miharu (จากสถานีชิงกันเซน Koriyama) แล้วต่อรถบัส ซึ่งเวลารถบัสจะสัมพันธ์กับเวลารถไฟ (คือจะมีรอบหลังจากรถไฟมาถึง และก็มาสถานีสักพักก่อนรถไฟออก)
ควรใช้เวลา: 2–3 ชั่วโมง
Tsuroka-jo (Aizu-Wakamatsu)
เมืองนี้นี่มีดีกว่าการมาดูซากุระอย่างเดียวนะ คือมันเป็นเมืองซามุไรเก่า บ้านเรือนก็จะออกแนวเก่าๆ สมควรมาเดินเล่น แต่เรามาดูซากุระ ก็ถือเป็นการพรีวิวแล้วกัน
อ่อ แล้วเค้าบอกว่าข้าวหน้าหมูทอดที่นี่ขึ้นชื่อด้วย (ไปจริงก็ไม่ได้กิน)
Tsuroka-jo หรือปราสาทนกกระเรียน ก็เป็นอีกปราสาทที่สวยอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญคือเข้าฟรี แต่ถ้าอยากขึ้นปราสาทก็ต้องจ่ายเงิน
ช่วงที่สมควรไป: หลังสงกรานต์
การเดินทาง: ลงรถไฟสถานี Aizu-Wakamatsu (จากสถานีชิงกันเซน Koriyama) แล้วก็นั่งรถบัสต่อไปอีก 40 นาที (จะสีแดงสีเขียวก็ขึ้นไปเถอะ เวลาไม่ต่างกันมาก) รถบัสมีทุกชั่วโมง (ข้อควรระวัง: ขากลับรถบัสมันมาก่อนเวลาได้ ควรมารอก่อนสัก 15 นาที)
ควรใช้เวลา: 4 ชั่วโมง นับจากสถานีรถไฟ
Miyagi
Funaokashi Park (Funaoka)⭐️
อันนี้แนะนำเฉยๆ ตอนไปทั้งฝนตก ทั้งร่วงหมดแล้ว
แต่ถ้าไม่ร่วงคุณจะพบกับภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ และซากุระที่ปลูกริมแม่น้ำนับร้อยต้น
ช่วงที่สมควรไป: ต้นสงกรานต์
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานีเซ็นไดไปลงที่สถานี Funaoka ใช้ประมาณครึ่งชั่วโมง (ขาละ 500 เยน)
ควรใช้เวลา: 3–4 ชั่วโมง (เดาเอานะ)
Shiogama Shrine (Shiogama)
อันนี้เขียนแยกบล็อกไว้แล้ว แม้ว่าซากุระจะไม่บานสะพรั่งเท่าที่อื่น แต่ก็มีหลายสายพันธุ์ เผื่อจะได้เห็นดอกแปลกๆบ้าง และก็ยังมีสายพันธุ์เฉพาะของที่นี่ด้วย
ถึงไม่ได้มาดูซากุระ แต่ก็มาเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้นะ
ช่วงที่สมควรไป: ตลอดเดือนเมษา เพราะซากุระมีหลายพันธุ์ บานไม่พร้อมกัน
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานีเซ็นไดไปลงที่ Shiogama ประมาณครึ่งชั่วโมง เดินอีกประมาณยี่สิบนาที
ควรใช้เวลา: 3 ชั่วโมง (ทางขึ้นศาลเจ้าสูง อาจต้องเผื่อเวลาไว้หน่อย)
Sendai
เดี๋ยวเมืองนี้จะน้อยใจ แถมให้หน่อย
ในตัวเมืองก็จะมีสวนสาธารณะ ซึ่งเราว่าก็ไปเดินขำๆได้นะ (จะไปเหล่หนุ่มเหล่สาวก็ได้ เค้าไปสังสรรค์กัน) นั่งรถไฟจากสถานีเซ็นไดไม่กี่สถานีก็ถึงหละ
Tsutsujigaoka Park (นั่ง JR ไปลงที่ Tsutsujigaoka)Nishi Park (นั่ง Metro ไปลงที่ Omachi Nishi-koen)
Yamagata
Yamadera Shrine
เนื่องจากเราไปที่ Yamadera อย่างเดียว เลยไม่ได้ดูข้อมูลมาว่ามีจุดชมซากุระที่ไหนบ้าง
…แต่ว่าที่ศาลเจ้าก็มีสวนซากุระอยู่เหมือนกันนะ ไปตรงช่วงก็ออกดอกสวยงามเลย
ช่วงที่สมควรไป: ศาลเจ้าไปได้ตลอด ส่วนซากุระในตัวศาลเจ้าคงประมาณสงกรานต์ ถ้าสวนข้างนอกก็ปลายสงกรานต์
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากเซ็นไดหรือยามากะตะมาสถานี Yamadera สวนซากุระเดินลอดทางรถไฟ แล้วก็เดินขึ้นเนินมา
ควรใช้เวลา: ครึ่งวัน
Iwate
Kitakama Tenshouchi (Kitakami) ⭐️
สวนสาธารณะริมแม่น้ำ ที่ปลูกซากุระไว้เป็นร้อยต้น ถ้ามาตรงช่วงนี่จะงามมากๆ ได้บรรยากาศ (จริงๆมันมีรถม้าด้วย แต่ข้าพเจ้าไม่เจอ)
แต่ถ้าไม่ตรงช่วง หรือร่วงหมด ก็อย่ามาเลย
ช่วงที่สมควรไป: สัปดาห์ที่สามเดือนเมษา
การเดินทาง: ชิงกันเซนลงที่สถานี Kitakami แล้วเดินไปประมาณครึ่งชั่วโมง (หนึ่งกิโลกว่าๆ) หรือเช่าจักรยาน
ควรใช้เวลา: 3–4 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง: ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าใหญ่ๆไม่ได้ แต่มีซุ้มให้ฝากนอกสถานี (แต่ปิดห้าโมงเย็น)
Morioka
เมืองหลักของจังหวัดนี้ ที่ดูไม่ค่อยมีอะไรเที่ยวนะ แต่มีของกินทำจากเส้นโดดเด่นถึงสามเมนู แล้วเมืองนี้วิวก็สวยด้วย
ส่วนถ้าจะมาดูซากุระ ก็จะมีจุดสำคัญสองที่คือ
Ishiwarizakura (Rock-splitting Sakura) เป็นซากุระที่ขึ้นอยู่บนก้อนหินใหญ่ และรากของมันก็ดันทะลุจนทำให้หินมันแตกMorioka Castle เรียกว่าเป็นฐานปราสาทก็ได้ เพราะว่ามันทลายไปแล้ว แต่ว่าก็มีซากุระปลูกอยู่รอบๆ
ช่วงที่สมควรไป: สัปดาห์ที่สามเดือนเมษา
การเดินทาง: นั่งชิงกันเซนลงที่ Morioka แล้วเดินจากสถานีไปครึ่งชั่วโมง (ไปตามถนนตรงกลางเลย จะผ่านสะพานโค้งๆ) จะเจอต้นซากุระก่อน แล้วเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงปราสาท
ควรใช้เวลา: ครึ่งวัน
Koiwai Farm
อันนี้อยู่ในแผนแต่ไม่ได้ไป ขนาดวันที่ 20 เมษามันยังไม่บานเลย อันนี้น่าจะปลายเดือนเมษาได้
คือมันจะเป็นฟาร์ม มีผลผลิตจากฟาร์มให้เลือกสรรค์และเลือกกิน
แต่ถ้าไม่ได้ไปแล้วอยากลองชิมผลิตภัณฑ์ที่นี่ดู ที่สถานีรถไฟก็มีขายนะ (รวมถึง Tokyo Station ด้วย)
ถ้าไปแล้วซากะระบานนะ ก็จะได้เห็นซากุระต้นเดี่ยว อยู่ในทุ่งหญ้าโล่งๆเขียวๆ มีฉากหลังเป็นภูเขาอิวาเตะ งดงาม
ดูข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.koiwai.co.jp/makiba/dayori/cat98/
Akita
Kakunodate Samurai Village (Kanunodate) ⭐️
ถ้าพูดถึงจังหวัดนี้ หมู่บ้านซามุไรก็เป็นที่น่าเที่ยวชมในทั้งในช่วงที่ซากุระไม่บาน และน่ามาเป็นอย่างยิ่งในช่วงซากุระบาน (รถทัวร์ลงที่นี่เยอะ ทั้งญี่ปุ่น ทั้งจีน)
แถบหมู่บ้านซามุไรนี่จะเป็นถนนกว้างๆ ด้านซ้ายขวาก็จะเป็นรั้วไม้ทาสีดำ มีบ้านเก่าจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าเยี่ยมชม แล้วซากุระที่นี่จะเป็นพันธุ์ที่เป็นสายๆไหลย้อยลงมา ได้บรรยากาศเมืองเก่าไปอีกแบบ
แล้วเดินออกไปเล็กน้อยก็จะเป็นแม่น้ำ ที่ปลูกซากุระเป็นร้อยๆต้น ถ้ามันบานก็น่าจะสวยเช่นกัน
ช่วงที่สมควรมา: สัปดาห์ที่ 3–4 เดือนเมษา (สัปดาห์ที่ 4 ซากุระริมแม่น้ำน่าจะบาน)
การเดินทาง: นั่งชิงกันเซนลงสถานี Kakunodate เดินไปประมาณหนึ่งกิโล (ชิงกันเซนต้องจองที่นั่งนะ แล้วก็จะได้นั่งชิงกันเซนที่บางช่วงมันช้าๆ เนิบๆ รางเดี่ยววิ่งอยู่ริมเขา)
ควรใช้เวลา: ครึ่งวัน
Aomori
Hirosaki Castle (Hirosaki) ⭐️
ที่ปราสาท Hirosaki นี่เรียกว่าติด Top 10 จุดชมซากุระของญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งไปถึงแล้วมันก็จริงนะ จุดถ่ายรูปเยอะมาก ยิ่งไปช่วงที่มันพีคนี่สุดๆเลย สวยมาก (เราเห็นรูปตอนมันหลังพีค กลีบซากุระร่วงหล่นน้ำจนเต็ม มันก็พีคอีกเหมือนกัน)
ไฮไลท์อยู่ที่วิวสะพานแดง ที่จะเห็นตัวปราสาท แต่ว่าตอนนี้มันซ่อมแซม เค้าเลยเลื่อนตัวปราสาททั้งหลังออกไป วิวมันเลยไม่สุดเท่าที่ควร ซึ่งกว่ามันจะเสร็จก็ปี 2023 เลย
ช่วงที่สมควรมา: สัปดาห์ที่ 4 เดือนเมษา
การเดินทาง: ชิงกันเซนลงที่สถานี Shin-Aomori แล้วต่อรถไฟไปลงที่ Hirosaki ประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นขึ้นรถบัส ซึ่งช่วงนั้นมันจะวนรอบๆ ตัวปราสาทในราคาเดียว (ไม่ต้องคิดมาก)
ควรใช้เวลา: ครึ่งวัน
ส่งท้าย
โทโฮคุนอกจากซากุระแล้วเนี่ยก็ยังมีอะไรให้น่าไปเที่ยวอีกเยอะ ไปฤดูหนาวก็น่าสน ใบไม้เปลี่ยนสีนี่ก็เห็นรูปแล้วก็ดีงาม น่าไป
ส่วนทริปนี้ยังไม่ได้ลงเรื่องของกินเลย เมืองอาโอโมริก็ยังไม่ได้เขียน ไว้โอกาสถัดไปหละกัน