ประเทศไหน ขับรถฝั่งไหน

50 miles away from home


Right Rule (พวงมาลัยซ้าย)
Abu Dhabi
Afghanistan
Albania
Algeria
American Samoa
Andorra
Angola
Argentina
Armenia
Aruba
Austria
Azerbaijan
Azores
Bahrain
Balearic Islands
Belarus
Belgium
Belize
Benin
Bolivia
Bonaire
Bosnia and Herzegovina
Brazil
Bulgaria
Burkina Faso
Burma (officially Myanmar)
Burundi
Cambodia
Cameroon
Canada
Canary Islands
Cape Verde
Central African Republic
Chad
Chile
China, People’s Republic of
Colombia
Comoros
Congo, Democratic Republic of
Congo, People’s Republic of
Costa Rica
Côte d’Ivoire (Ivory Coast)
Croatia
Cuba
Curaçao
Czech Republic
Denmark
Djibouti
Dominican Republic
Dubai
Ecuador
Egypt
El Salvador
Equatorial Guinea
Eritrea
Estonia
Ethiopia
Faeroe Islands
Finland
France
French Guiana
French Polynesia
Gabon (Gabonese Republic)
Gambia
Gaza
Georgia
Germany
Ghana
Gibraltar
Greece
Greenland
Guadeloupe
Guam
Guatemala
Guinea
Guinea-Bissau
Haiti
Holland (officially the Netherlands)
Honduras
Hungary
Iceland
Iran
Iraq
Israel
Italy
Ivory Coast (Côte d’Ivoire)
Jordan
Kazakhstan
Korea, North
Korea, South
Kosovo
Kuwait
Kyrgyzstan
Laos
Latvia
Lebanon
Liberia
Libya
Liechtenstein
Lithuania
Luxembourg
Macedonia
Madagascar
Madeira
Mali
Marshall Islands
Martinique
Mauritania
Mayotte
Mexico
Micronesia, Federated States of Moldova
Monaco
Mongolia
Montenegro
Morocco
Myanmar (formerly Burma)
Netherlands
New Caledonia
Nicaragua
Niger
Nigeria
Northern Mariana Islands
North Korea
Norway
Oman
Palau
Panama
Paraguay
Peru
Philippines
Poland
Portugal
Puerto Rico
Qatar
Réunion
Romania
Russia
Rwanda
Saba
Saint Barthélemy
Saint Martin
Sint Eustatius
Sint Maarten
San Marino
São Tomé and Príncipe
Saudi Arabia
Senegal
Serbia
Sierra Leone
Slovakia
Slovenia
Somalia
Somaliland
South Korea
South Sudan
Spain
Sudan
Sweden
Switzerland
Syria
Tahiti
Taiwan
Tajikistan
Togo
Tunisia
Turkey
Turkmenistan
Ukraine
United Arab Emirates (UAE)
United States of America (USA)
Uruguay
Uzbekistan
Vanuatu
Vatican City
Venezuela
Vietnam
Wallis and Futuna
West Bank
Western Sahara
Yemen

Left Rule (พวงมาลัยขวา)
Anguilla
Antigua and Barbuda
Australia
Bahamas
Bangladesh
Barbados
Bermuda
Bhutan
Botswana
British Virgin Islands
Brunei
Cayman Islands
Channel Islands (Guernsey & Jersey)
Christmas Island
Cocos (Keeling) Islands
Cook Islands
Cyprus
Dominica
East Timor (Timor-Leste)
England
Falkland Islands
Fiji
Great Britain (GB)
Grenada
Guernsey
Guyana
Hong Kong
India
Indonesia
Ireland (Eire)
Ireland, Northern
Isle of Man
Jamaica
Japan
Jersey
Kenya
Kiribati
Lesotho
Macau
Malawi
Malaysia
Maldives
Malta
Mauritius
Montserrat
Mozambique
Namibia
Nauru
Nepal
New Zealand
Niue
Norfolk Island
North Cyprus
Northern Ireland
Pakistan
Papua New Guinea
Pitcairn Islands
Saint Kitts and Nevis 
Saint Lucia
Saint Helena
Saint Vincent and the Grenadines
Samoa
Scotland
Seychelles
Singapore
Solomon Islands
South Africa
Sri Lanka
Suriname
Swaziland
Tanzania
Thailand
Tokelau
Tonga
Trinidad and Tobago
Turks and Caicos Islands
Tuvalu
Uganda
United Kingdom (UK)
United States Virgin Islands
Virgin Islands (British)
Virgin Islands (USA)
Wales
Zambia
Zimbabwe

ที่มา: http://www.worldstandards.eu/

10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรปปี 2016

เว็บไซต์ Numbeo.com ได้ทำการจัดลำดับความปลอดภัยของประเทศต่างๆ จากการทำสำรวจจากผู้ที่เข้าใช้งานในเว็บไซต์ ซึ่งแบบสำรวจเป็นแบบสำรวจที่ได้มีความสอดคล้องตามหลักวิชาการ และแบบการสำรวจของรัฐบาล
และเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ Numbeo จึงนำเสนอ โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็นระดับความปลอดภัยดังนี้

80–100 คะแนน มีความปลอดภัยสูงสุด
60–79.99 คะแนน มีความปลอดภัยสูง
40–59.99 คะแนน มีความปลอดภัยปานกลาง
20–39.99 คะแนน มีความปลอดภัยต่ำ
0–19.99 คะแนน มีความปลอดภัยต่ำมาก

ทั้งนี้ทรายได้รวบรวมประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสุด 10 ประเทศในยุโรปดังนี้

อันดับที่ 10 ประเทศโรมาเนีย

โรมาเนีย เป็นประเทศในทวีปยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตทิศตะวันออกเฉียงเหนือจดประเทศยูเครนและประเทศมอลโดวา ทิศตะวันตกจดประเทศฮังการีและประเทศเซอร์เบีย ทิศใต้จดประเทศบัลแกเรีย โรมาเนียมีชายฝั่งบนทะเลดำ
โรมาเนียจัดเป็นประเทศที่ยังมีความหลากหลายทางธรรมชาติอยู่มาก โดยเฉพาะแถบทรานซิลเวเนียแอลป์ซึ่งมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

อันดับ 9 ประเทศโครเอเชีย

โครเอเชีย เป็นประเทศรูปเสี้ยววงเดือนในยุโรปที่มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลาง และบอลข่าน เมืองหลวงชื่อซาเกร็บ ในประวัติศาสตร์ปัจจุบัน โครเอเชียเคยเป็นสาธารณรัฐในยูโกสลาเวียเดิม แต่ได้รับเอกราชในพ.ศ. 2534 และได้สมัครเพื่อเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในอนาคต หวังว่าพวกเราจะได้ข่าวดีจากการเข้าร่วมเชงเก่นวีซ่าในอีกไม่นานนี้

อันดับ 8 ประเทศฟินแลนด์

ประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก เนื้อที่ราวหนึ่งในสี่ของประเทศฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ในจุดที่เหนือที่สุดของฟินแลนด์ พระอาทิตย์ไม่ตกดินเป็นเวลา 73 วันในช่วงฤดูร้อน และไม่ขึ้นเลยเป็นเวลา 51 วันในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าสภาพอากาศจะแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง แต่ฟินแลนด์ก็เป็นดินแดนในฝันของหลายๆ คน

อันดับ 7 ประเทศเบลารุส (ฺBelarus)

ชื่อเบลารุส อาจจะไม่คุ้นหูพวกเรามากนัก ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกัยรัสเซีย ยูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย เมืองหลวงของประเทศคือกรุงมินสก์ เบลารุสเป็นประเทศที่ยังไม่รวมอยู่ในกลุ่มเชงเก้น แต่พวกนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็นิยมรวมไว้กับการไปเที่ยวโปแลนด์ และลัตเวียค่ะ

อันดับ 6 ประเทศมอลต้า

มอลตา หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมอลตา เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป ถัดลงมาจากตอนใต้ของประเทศอิตาลี นับเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งหนึ่งในยุโรป มีผู้มาครอบครองและถูกแย่งชิงนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต 
มอลต้าถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอิตาลี่ โดยศิลปะและวัฒนธรรมของมอลต้าจะได้อิทธิพลมาจากอิตาลี่อย่างเห็นได้ชัด

อันดับ 5 ประเทศสโลเวเนีย

ประเทศสโลวีเนียเป็นประเทศบนชายฝั่งทางใต้ของเทือกเขาแอลป์ ในยุโรปกลางตอนใต้ เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรยูโกสลาเวียและได้รับเอกราชมาเมื่อไม่นานนี้
ประเทศสโลเวเนียเป็นประเทศที่สวย เพราะมีพรมแดนบางส่วนติดกับเทือกเขาแอลป์ และเนื่องจากเป็นประเทศเปิดใหม่ ทำให้ผู้คนยังไม่เยอะนัก ธรรมชาติก็ยังคงสวยงามดังที่เห็น

อันดับ 4 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ประเทศนี้ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก สวยตรึงตราระดับโลกอยู่แล้วใช่มั้ยคะ

อันดับ 3 ประเทศเดนมาร์ก

เดนมาร์กเป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีแผ่นดินหลักตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ ทางทิศเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางบกเพียงประเทศเดียว ทางทิศใต้ของประเทศนอร์เวย์ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน 
เดนมาร์กแต่เดิมเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย พื้นที่ตลอดชายฝั่งเป็นสันทรายกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนอื่นเกิดจากธารน้ำแข็งและหนองน้ำแต่ความสวยงามไม่ต้องบรรยายเลยทีเดียว

อันดับ 2 ประเทศเอสโตเนีย

เอสโตเนีย ตั้งอยู่ในภูมิภาคบอลติก ในยุโรปเหนือ มีเมืองหลวงชื่อว่า ทาลลินน์ โดยเอสโตเนียมีจำนวนประชากรของประเทศที่น้อยที่สุดในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป และเนื่องด้วยเป็นประเทศที่เพิ่งประกาศเอกราชมาไม่นาน ทำให้ยังมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวไม่มากนัก สำหรับผู้ที่นิยมดินแดนใหม่ๆ ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

อันดับ 1 ประเทศออสเตรีย

ออสเตรีย ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่เป็นประเทศที่มีทะเลสาบจำนวนมาก และแต่ละทะเลสาบก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ 
ออสเตรียมีพื้นที่ที่ถูกเทือกเขาแอลป์พาดผ่านตั้งแต่กลางประเทศ ทำให้มีธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่งดงาม ที่สำคัญในปี 2016 ออสเตรียยังถูกจัดลำดับให้เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป งานนี้พลาดไม่ได้จริงๆ

และถ้าเพื่อนๆ สนใจประเทศอื่นๆ สามารถดูลำดับความปลอดภัยได้ดังนี้เลยค่ะ

ไว้มาติดตามเรื่องราวน่าสนใจกันใหม่นะคะ

พูดคุยอัพเดทกันได้ที่ www.facebook.com/50milesawayfromhome

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงปวดหัวไม่น้อยกับการทำ Tax Refund ที่ยุโรป 
เพราะความซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่
ทำให้บางครั้งเพื่อนๆ อดได้รับภาษีคืนจากการซื้อสินค้า

วันนี้ทรายรวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้มีวิธีการทำ Tax Refund ในยุโรปค่ะ

Tax Refund คืออะไร

Tax Refund ที่เราเข้าใจกับก็คือ VAT Refund ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Value added Tax Refund โดย

Value added Tax หมายถึงภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคหน่วยสุดท้ายซึ่งเป็นผู้บริโภคที่อยู่ในอาศัยในเขต/ในประเทศนั้นๆ

ส่วนคำว่า Refund หมายถึง การเรียกคืน

ดังนั้น VAT Refund จึงหมายถึงการขอเรียกคืนภาษีมูลค่าเพิ่มคืนจากประเทศ
หรือเขตนั้นๆ เนื่องจากเราไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัย หรือเป็นพลเมืองของประเทศ/เขตนั้น

ใครบ้างคือผู้ที่สามารถเรียกคืนภาษีชนิดนี้ได้

ในข้อกำหนดของสหภาพยุโรปกำหนดว่าผู้ที่จะสามารถขอคืนภาษีได้นั้นจะต้องเป็น “Visitor” ซึ่งหมายถึงผู้มาเยี่ยมเยียน ซึ่งต้องมีถิ่นพำนักอาศัยอย่างถาวรในประเทศอื่นนอกเหนือจากเขตสหภาพยุโรป/หรือประเทศนั้นๆ

ซึ่งสิ่งที่สามารถแสดงถึงการเป็น Visitor ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน พาสปอร์ตในมือเราๆท่านๆนั้นเอง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจากเมืองไทยส่วนใหญ่ (นักเรียน/การมีสามีภรรยาอยู่ที่นู้นอาจไม่นับเป็น Visitor) จึงจะได้รับสิทธิ์จากขอคืนภาษีชนิดนี้ได้

ขั้นตอนการขอคืนภาษี Tax Refund

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากปวดหัวสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้มีอะไรเลย การทำความเข้าใจกับระบบการขอคืนภาษีก่อนจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขอคืนภาษีนี้มี 3 ฝ่ายด้วยกัน


ร้านค้า แบรนด์ ห้างสรรพสินค้าที่ขายของให้เรา กลุ่มนี้จริงๆมีหน้าที่เพียงขายสินค้าให้เราค่ะ แต่เนื่องจากเราเสียภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านร้านค้าเหล่านี้ พวกเขาจึงจะต้องมีการติดต่อ Tax operator (ผู้ดำเนินงานด้านภาษี) ให้เป็นตัวแทนในการคืนภาษีให้เราตามขั้นต่ำการซื้อที่ประเทศนั้นๆกำหนดไว้ ดังนั้นเมื่อเราซื้อสินค้าผ่านร้านค้าที่สามารถขอคืนภาษีได้ เราจะได้รับ Tax Refund Form เก็บใบนี้ไว้ให้ดี โดยเราจะต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน

2. Tax Operator ผู้ดำเนินงานด้านภาษี กลุ่มนี้จะเป็นตัวกลางที่ดูแลการคืนภาษีให้เรา โดยเจ้าที่ดังๆได้แก่ Global Blue, Premier Tax Free เป็นต้น โดย Tax Operator เหล่านี้มีผลยังไงกับเรา มีผลสิ เพราะ Tax Refund Form ที่เราได้รับจากร้านค้าเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะต้องไปขึ้นเงินคืนอย่างไร ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีข้อกำหนดในการขึ้นเงินไม่เหมือนกัน เช่น Global Blue มักจะมีเค้าเตอร์ที่สนามบิน ทำให้เราสามารถไปขึ้นเงินสดได้เลย แต่ Premier Tax Free ก็จะต้องไปขึ้นเงินที่ธนาคารในสนามบิน หรือ เจ้าอื่นๆ อาจจะไม่มีเค้าเตอร์ที่สนามบินนั้นๆ เราจึงต้องส่ง Tax Refund Form ในกล่องรับ หรือ ตู้จดหมาย และจะได้การคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเท่านั้น นอกจากนี้ Tax Operator แต่ละเจ้าจะมีค่าธรรมเนียมในการคืนภาษีที่แตกต่างกันอีกด้วย

3. เจ้าหน้าที่ศุลกากร (Customs) พี่ใหญ่ของเราในกระบวนการคืนภาษี Customs เป็นผู้มีหน้าที่ในการยินยันว่าสินค้าที่จะขอคืนภาษีนั้นได้ถูกส่งออก หรือ นำไปใช้นอกเขตภาษีนั้นๆ จริง ซึ่งเราจะต้องได้รับ Customs Stamp ลงบน Tax Refund Form เท่านั้น เราถึงจะได้รับภาษีคืน

สามารถสรุปง่ายๆ ได้ว่าในกระบวนการคืนภาษีจะต้องมี Tax Refund Form + Customs Stamp และเราถึงจะได้เงินคืน


ความยุ่งยากอยู่ตรงไหน?

ดูแล้วเหมือนไม่ยุ่งใช่ไหมคะ แต่จริงๆแล้วความยุ่งยากมีอยู่ 2 จุดค่ะ

1.กระบวนการ Customs Stamps เพราะแต่ละประเทศ หรือประเทศเดียวกันแต่คนละสนามบิน ก็มีกระบวนการตรวจสอบเพื่อทำ Customs Stamp ไม่เหมือนกัน บางทีเช็คอินก่อน บางทีทำก่อนเช็คอิน บางที่ต้องเข้าไปทำหลัง Passport Control ยุ่งยากไปหมด

2. การรับเงินคืน จริงๆแล้วการรับเงินคืนจะแตกต่างกันไปในแต่ละ Tax Operator บางบริษัทมีเค้าเตอร์ บางบริษัทต้องใส่กล่องคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามส่วนนี้เราสามารถอ่านการคืนเงินได้ที่ซองจดหมายที่ใส่ Tax Refund Form ที่ได้จากร้านค้าค่ะ ในกรณีที่เครื่องจะขึ้นอยู่แล้ว วินาทีสุดท้ายแล้วยังไงก็ไม่ได้เงินสดคืน ทรายแนะนำให้กรอกรายละเอียดทั้งหมดใน Tax Refund Form ที่ได้รับการ Stamp แล้ว ปิดผนึก หาตู้ Tax Operator เจ้านั้นๆ หรือ Post box (ตู้ไปรษณีย์) เพื่อใส่เอกสารลงไป ถ้าหาไม่เจอจริงๆ (เอาแบบพยายามแล้วนะคะ) ทรายแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากพนักงานสายการบินให้ช่วยส่งเอกสารให้หน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่งลงกล่องด้วยมือตัวเองก็จะปลอดภัยที่สุด จากนั้นเอกสารเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ Tax Operator และ Tax Operator ก็จะคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเราให้ค่ะ

ทรายสรุปวิธีการขอคืนภาษีประเทศต่างๆ ในยุโรปมาให้ค่ะ









สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มเลงเก้น แต่อยู่นอกกลุ่ม EU นะคะ ดังนั้นต้องระวังเรื่องการ Refund สินค้าจากประเทศ EU ค่ะ


เพิ่มเติมให้สำหรับคำถามยอดฮิตค่ะ

Q: เราสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าโดยที่หักภาษีส่วนนี้ไปแล้วได้หรือไม่

A: ทรายไม่แน่ใจว่ามีประเทศอื่นๆ ในโลกที่ทำได้หรือไม่นะคะ แต่สำหรับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปไม่ได้ค่ะ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องการันตีว่าสินค้าที่จะขอคืนภาษีนั้นถูกส่งออกไปใช้นอกเขตจริง ดังนั้น Customs จะเป็นผู้ตรวจสอบตรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว Customs ก็จะอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน สถานีรถไฟก่อนออกนอกเขต หรือสนามบินอยู่แล้วค่ะ

Q: ทุกร้านค้าที่เราซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถขอ Tax Refund ได้ใช่ไหมคะ

A: ไม่ใช่ค่ะ ต้องเป็นร้านค้าที่มีการติดต่อ Tax Operator เพื่อดำเนินการภาษีให้แก่ลูกค้า วิธีสังเกตว่าร้านค้าไหนสามารถขอคืนภาษีได้จะมีป้าย Tax Free หรือ ป้ายของ Tax Operator อยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ร้านใหญ่ๆก็จะสามารถคืนภาษีได้ค่ะ ถ้าไม่แน่ใจเมื่อเข้าร้านให้ถามพนักงานก่อนเลยค่ะ ทั้งนี้เราสามารถขอคืนภาษีได้เฉพาะสินค้าเท่านั้นนะคะ การบริการไม่สามารถขอคืนภาษีได้ค่ะ

Q: แต่ละประเทศมีเงื่อนไขการรีฟันขั้นต่ำที่เหมือนกันหรือไม่

A: ไม่เหมือนค่ะ แต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดมูลค่าสินค้าขั้นต่ำที่จะได้รับรีฟันคืน ตัวอย่างเช่น ประเทศเยอรมนีมีขั้นต่ำอยู่ที่ 25 ยูโร ประเทศฝรั่งเศส 175.01 ยูโร ทั้งนี้มูลค่าสินค้าขั้นต่ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของประเทศนั้นๆค่ะ

Q: กระบวนการขอ Tax Refund ของทุกสนามบินจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไหม

A: ไม่ค่ะ กระบวนการขอ Tax Refund มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น สนามบินชาเดอโกลของฝรั่งเศสได้นำอิเล็กทรอนิกส์ชื่อ Pablo มาแสกนบาร์โค้ดของ Tax Refund Form เพื่อทดแทนงาน Customs Stamp ค่ะ ดังนั้นเราจึงควรติดตามประกาศวิธีการขอ Tax Refund จากสนามบินที่เราเดินทางออกได้ที่เว็บไซต์ของสนามบินนั้นๆ ค่ะ

จบแล้วนะคะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมติดตามต่อได้ที่

https://www.facebook.com/50milesawayfromhome

#50Milesawayfromhome

เชื่อว่าหลายคนคงขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ซิมก็ไม่มี พูดก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง กระเป๋าก็ต้องรอ รูปก็ต้องอัพ
ยิ่งเวลาที่เราจะต้องรอต่อเครื่องนานๆ การมีอินเตอร์เน็ตก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

วันนี้ทรายรวบรวมสนามบินที่มีให้บริการ Free wifi มาให้เพื่อนๆ 
จริงๆ แล้วปัจจุบันสนามบินแทบจะทั้งหมดจะให้บริการ Free Wifi โดยจะใช้ชื่อเครือข่ายเป็นชื่อเดียวกับสนามบิน

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อนๆจะต้องระมัดระวังการใช้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีเหล่านี้ โดยเฉพาะ Wifi ที่มีชื่อเครือข่ายว่า “ Free Public Wi-Fi” เพราะอาจถูกโจรกรรมข้อมูลได้

เริ่มต้นที่ประเทศไทย มีให้บริการแล้ว 6 สนามบิน จ้าา

Suvarnabhumi AirportDon Mueang International AirportChiang Mai International AirportMae Fah Luang Chiang Rai International AirportPhuket International AirportHat Yai International Airport

เอเชีย
1. ประเทศญี่ปุ่น 
Narita Airport — Narita
Kansai Airport — Osaka
Haneda Airport — Ota
New Chitose Airport — Sapporo
ANA lounges — request free WEP key

2.เกาหลีใต้
 Incheon International Airport — Seoul
Gimpo International Airport — Seoul

3. ฮ่องกง และมาเก๊า
Hong Kong International Airport — Hong Kong
Chek Lap Kok Airport
Macau International Airport — Taipa

4. สิงคโปร์
Changi Airport — near free computers

5. เวียดนาม
Tan Son Nhat International Airport — Ho Chi Minh City

6. มาเลเซีย 
Kuala Lumpur Int. Airport

7. จีน
Beijing Capital Airport Term. 3 departure area, after security — Beijing
Airport — front of ticket counters — Changsha, Hunan

8. ไต้หวัน
Chiang Kai-Shek International Airport — Terminal 2
Taoyuan International Airport, terminal 2, arrival hall 1F — Taoyuan

9. อินโดนีเซีย
Denpasar Airport — Bali
Soekarno-Hatta Int. Airport — Jakarta
Yogyakarta Airport — Java

10. ภูฏาน
Paro International Airport

11. บรูไน
Brunei Int. Airport — Bandar Seri Begawan

11. ฟิลิปปินส์
Mactan Airport — Lapu Lapu City
Manila Int. Airport — smoking area — Luzon

12. ศรีลังกา
Sri Lankan Airways Business Class lounge area — Columbo International Airport

13. อินเดีย
Bangalore International Airport — Bangalore
Hyperabad Airport — Hyperabad
Madurai, Tiruchi and Coimbatore airports in Tamil Nadu State
Mumbai International Airport/Chhatrapati Shivaji International Airport
Indira Gandhi Airport — New Delhi

ยุโรป
1. สาธารณรัฐเชค (Czech Republic)
Airport Brno — Brno
Leos Janacek Ostrava Airport — Mosnov
Prague Airport — restricted speed, higher speed fee based — Prague

2. เดนมาร์ก (Denmark)
Aalborg Airport — Norresundby

3. ฟินแลนด์ (Finland)
Helsinki-Vantaa Airport — Vantaa

4. ฝรั่งเศส (France)
Merignac Airport — Bourdeaux
Nice Airport — Nice
Charles-de-Gaulle Aiport — 15 minute limit — Paris
Strasbourg Airport — Strasbourg

5. เยอรมันนี (Germany)
Frankfurt Airport — 30 free minutes with access code — Frankfurt

6. กรีซ (Greece)
Athens Int. Aiport — 45 min. limited access — Athens

7. ฮังการี (Hungary)
Budapest Ferihegy Int’l Airport — Terminals 2A and 2B — free network is Pannongsm — Budapest

8. ไอร์แลนด์ (Ireland)
Cork Airport — departure lounge — Cork
Dublin Airport — Dublin
Shannon Airport — main cafe upstairs and also the departure lounge in front of US immigration — Shannon

9. อิตาลี่ (Italy)
Bologna Airport — Bologna
Turin Airport — Turin

10 ลัตเวีย (Latvia)
Riga Airport for Baltic Miles members(free)

11. ลิทัวเนีย (Lithuania)
Vilnius International Airport — Vilnius

12. ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
Luxembourg International Airport

13. มัลต้า (Malta)
Malta International Airport — Luqa

14. เนเธอร์แลนด์/ฮอล์เลนด์ (Netherlands)
Schiphol International — 1 hour per day — Amsterdam

15. นอร์เวย์ (Norway)
Gardemeon Airport — Oslo
Torp Airport — Sandefjord

16. โปแลนด์ (Poland)
Warsaw Chopin Airport — covers Terminal A (the entire restricted area, VIP and Executive Lounges, as well as the public access area), along with the General Aviation Terminal, 30 free minutes

17. โปรตุเกส (Portugal)
Faial Island Airport — bar area — Horta -Azores
Madeira Island Airport — Madeira Island

18. โรมาเนีย (Romania)
Baia Mare Airport — Tautii Magheraus
International Airport Traian Vuia — Timisoara

19. ดินแดนสองทวีปรัสเซีย (Russia)
Sheremetyevo-2 (SVO) Airport — departure terminal, waiting hall, cafes and vip-halls — Moscow

20. สโลวาเกีย (Slovakia)
Bratislava Airport — Bratislava

21. สโลวีเนีย (Slovenia)
Ljubjana Airport — Ljubjana

22. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
Geneva (Cointrin) International Airport — access code sent via SMS — Geneva

23. ตุรกี (Turkey)
Ataturk Airport — Millenium Lounge access for several airline Club members — Istanbul
Izmir Adnan Menderes Airport

24. สหราชอาณาจักร/อังกฤษ (UK)
British Airways’ lounges at Heathrow, Gatwick, Manchester, Newcastle, Edinburgh, Glasgow, Aberdeen and Jersey have Free Wi-Fi.
Bristol Airport — Bristol
London City Airport — London
Stansted Airport

22. โครเอเชีย
Split Airport — Split

23. ยูเครน (Ukraine)
Kyiv Boryspil International Airport — Boryspil
Odessa Airport -Odessa

24. คาซัคสถาน (Kazakhstan)
Internation Airport — Almaty

แถมประเทศแถบตะวันออกกลางที่มีสายการบินระดับโลกมากมาย
1. ดูไบ (Dubai)
Dubai International — Food Court and other ares — Dubai

2. กาต้า (Qutar)
Doha International Airport

3. United Arab Emirates
Abu Dhabi International Airport
Dubai International Airport

4. อียิปต์ (Egypt)
Hurghada Airport — before visa control — Hurghada
Sharm El Sheik International Airport

5. อิหร่าน (Iran)
Imam Khomeini International Airport — Tehran

6. ปากีสถาน (Pakistan)
Jinnah International Airport — Karachi

ขอเวลาสักพัก ฉันกำลังมีความรักที่ +4,810 เมตร

บางครั้งเราก็ตามหาความหมายของชีวิตผ่านการเดินทาง

ฉันไม่รู้ว่านิยามความสุขของคนเราเหมือนกันมากน้อยเพียงไร
ฉันคิดว่า ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่มีความฝันหลายๆอย่าง
อยากขายบะหมี่ อยากเลี้ยงแพนกวินกับนกเป็ดน้ำ 
อยากมีความสุขในทุกๆวัน 
ที่สำคัญ”ฉันอยากเดินทางรอบโลก”

การเดินทางครั้งนี้ของฉันมีฝรั่งเศสเป็นจุดหมาย
“ฝรั่งเศสเมืองน้ำหอม”
ได้ยินชื่อก็หอมฟุ้งมาแต่ไกล

เมื่อพูดถึงฝรั่งเศส 
หลายๆคนคงนึกถึงหอไอเฟล หลุยส์วิตตอง มาการอง ไปจนถึงช็องเซลีเซ
แต่ด้วยความที่ฉันไม่ค่อยสันทัดเรื่องแบรนด์เนมมากนัก 
บวกกับความรักธรรมชาติที่มีอยู่เป็นทุนเดิม
นั่นทำให้เป้าหมายของฉันค่อนข้างชัดเจน
และแน่นอนว่าเป้าหมายของฉันไม่ใช่ 
ปารีส…


ฉันเดินทางออกจากปารีสด้วยรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง มาแวะพักที่เมืองอานน์ซี (Annecy) และใช้รถไฟท้องถิ่นต่อไปยังจุดหมายของเรา ใช้เวลาอีกเกือบ 3 ชั่วโมง
ในที่สุดฉันก็มาถึง
…ชาโมนิกซ์…

เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) เป็นที่ตั้งของมองบลังค์ (Mont Blanc) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป 
มองบลังค์เป็นชื่อยอดเขาหนึ่งซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาที่ยิ่งใหญ่แห่งยุโรป 
เทือกเขาแอลป์ทอดยาวมาตั้งแต่ประเทศสโลวีเนียจนจบที่ประเทศฝรั่งเศส
เทือกเขาแอลป์มีความสวยงามดั่งภาพวาด



ฉันตกหลุมรักเทือกเขานี้มานานแล้ว
และหวังว่าสักวันฉันจะไปพบกับจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขานี้ให้ได้

มองบลังค์มีความสูงอยู่ที่ 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เป็นจุดที่ได้รับการยอมรับว่าสูงที่สุดในทวีปยุโรป
อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับความสูงเพียงเท่านี้ เมื่อเทียบกับแชมป์ของทวีปอื่นนับว่าเด็กๆ
แต่สำหรับฉัน 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน



ฉันเดินทางมาถึงชาโมนิกซ์ตั้งแต่เช้าตรู่
ฉันมีกำหนดการอยู่ที่นี่เพียง 2 วัน เพราะต้องนั่งรถไฟต่อไปเมืองอื่น
วันแรกที่เราไปถึงอากาศดีมากๆ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบ 2 องศา 
หนาวจนมือหูหลุด!
แต่ท้องฟ้าสดใสมากไม่เคยเห็นแสงอาทิตย์ที่ไหนใสขนาดนี้มาก่อน
ด้วยใบหน้าและรอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่อง
ฉันมั่นใจว่าต้องได้ขึ้นกระเช้าเจอมองบลังค์แน่ๆ
เดินไปซื้อตั๋วที่เค้าเตอร์ตอนประมาณสิบโมง 
พนักงานบอกว่า Close for wind, information at 11.00
ตอนแรกก็งง หมายความว่าไง?
คุยกันจนเข้าใจว่าข้างบนลมแรงมาก
ขึ้นไม่ได้!!!
น้ำตาแทบเล็ด เพราะเค้าบอกว่าต้องดูสภาพอากาศวันต่อวันเท่านั้น
ทำอะไรไม่ได้ คงเหลือแค่ไหว้พระขอพร
เพราะมีเวลาอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว พรุ่งนี้ต้องลุ้นเอาว่าจะได้ขึ้นหรือป่าว


เวลานั้นเดินกลับโรงแรมไปตั้งหลักระหว่างที่นั่งพักได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
เริ่มนับหนึ่งและทบทวนทฤษฎีที่ว่าด้วยการพบกันของคนเรานั้นเกิดขึ้นเพราะโชคชะตา
ดังนั้นการจะได้เจอสิ่งที่อยู่ในฝันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อย่างการขึ้นกระเช้าไปดูมองบลังค์ พกตังมาอย่างเดียวไม่พอ
ต้องพกดวงมาด้วย

สรุปวันนั้นอากาศไม่ดี กระเช้าขึ้นมองบลังค์จึงปิดทั้งวัน
ได้แต่นั่งลุ้นว่าพรุ่งนี้อากาศจะดีพอ กระเช้าจะเปิดได้รึป่าว
ในใจก็อึดอัดมาก ถ้าปีนขึ้นไปเองได้ คงปีนไปแล้ว
ติดอยู่ตรงที่กลัวตาย เลยตัดสินใจว่ารอกระเช้าพรุ่งนี้ก็ได้





วันนั้นเราก็ได้แต่เดินเล่นลัดเลาะไปมาในเมืองท่ามกลางหุบเขา
ไม่มีใครบอกได้ว่าพรุ่งนี้ ฟ้าจะเปิด อากาศจะเป็นใจหรือป่าว
หรือว่าเรา จะไม่ได้เจอกันจริงๆ

และแล้ว…
ด้วยบุญกุศลนำพา
วันรุ่งขึ้นฟ้าฝนเป็นใจ
รายงานสภาพอากาศว่าวันนี้กระเช้าเปิด ขึ้นได้
รีบกุลีกุจอแต่งองค์ทรงเครื่องให้พร้อมขึ้นไปเผชิญความหนาวระดับติดลบ
ตีตั๋ว 57 ยูโรขึ้นกระเช้าไปอย่างมีความสุข 
แว็บแรกที่เห็นกระเช้าลงมารับน้ำตาแทบไหล ดีใจจนพูดไม่ถูก…





ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราเจอกัน








เขาว่ากันว่า บนยอดเขาอากาศมันเบาบาง
แต่ฉันเชื่อว่า
คนที่ชอบยอดเขาสูงแบบฉัน
การขึ้นที่สูงทำให้หายใจได้เต็มปอด

วันนี้ฉันขึ้นไปพบเธอแล้วที่ความสูง 4,810 เมตร
และสักวันฉันจะไปให้ถึงเอเวอเรสต์


ติดตามเรื่องราวการเดินทางอื่นๆได้ที่: https://www.facebook.com/50milesawayfromhome/



Similar Posts by The Author:

One Reply to “ประเทศไหน ขับรถฝั่งไหน”

  1. Pingback: 3accommodating

Leave a Reply